บริษัท AI จีนเผยโมเดลโอเพนซอร์สตัวใหม่เหนือกว่าโมเดลที่ก้าวหน้าที่สุดที่ OpenAI เปิดตัวสู่สาธารณะ

DeepSeek บริษัทจีนสร้างปรากฏการณ์วงการ AI ด้วยการเปิดตัวโมเดล R1 แบบ open source ที่มีประสิทธิภาพทัดเทียม OpenAI o1 เปิดโอกาสให้นักพัฒนาต่อยอดได้อย่างอิสระ สะท้อนการแข่งขันด้าน AI ที่ทวีความเข้มข้น

บริษัท AI จีนเผยโมเดลโอเพนซอร์สตัวใหม่เหนือกว่าโมเดลที่ก้าวหน้าที่สุดที่ OpenAI เปิดตัวสู่สาธารณะ

Key takeaway

  • DeepSeek บริษัทสัญชาติจีนสร้างปรากฏการณ์ในวงการ AI ด้วยการเปิดตัวโมเดล R1 แบบ open source ที่อ้างว่ามีประสิทธิภาพทัดเทียมกับ OpenAI o1 โดยเฉพาะด้านคณิตศาสตร์ การเขียนโค้ด และการให้เหตุผล
  • การเปิดตัว R1 ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของบริษัทขนาดเล็กในวงการ AI ที่สามารถท้าทายการครอบงำของยักษ์ใหญ่อย่าง OpenAI และ Apple ด้วยแนวทาง open source ที่เปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถนำไปต่อยอดได้อย่างอิสระ
  • สงครามแย่งชิงเทคโนโลยี AI กำลังทวีความเข้มข้น โดย OpenAI มีแผนเปิดตัว o3 ในเร็วๆ นี้ ขณะที่ฝั่ง open source อย่าง DeepSeek ที่ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนจีนก็กำลังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่น่าจับตามอง

ในยุคที่ AI กำลังพัฒนาอย่างก้าวกระโดด บริษัทสัญชาติจีน DeepSeek ได้สร้างความฮือฮาด้วยการประกาศเปิดตัวโมเดล AI ตัวใหม่ "R1" บนแพลตฟอร์ม X เมื่อวานนี้ โดยอ้างว่ามีขีดความสามารถทัดเทียมกับ o1 ของ OpenAI ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา

จุดเด่นของ DeepSeek R1 คือการเป็นโมเดลแบบ open source ที่เปิดโอกาสให้นักพัฒนาและนักวิจัยสามารถนำไปต่อยอดได้อย่างอิสระ ทั้งยังอ้างว่าสามารถทำคะแนนด้านคณิตศาสตร์ การเขียนโค้ด และการให้เหตุผลได้เหนือกว่า OpenAI แม้ผลการทดสอบยังไม่ได้รับการยืนยันจากองค์กรอิสระ แต่นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของบริษัทขนาดเล็กในวงการ AI ที่ปัจจุบันถูกครอบงำโดยยักษ์ใหญ่อย่าง OpenAI และ Apple

DeepSeek เป็นบริษัทในเครือของ High-Flyer กองทุน hedge fund จากหางโจว ที่ดำเนินธุรกรรมผ่าน Securities and Futures Commission ในฮ่องกง ความสำเร็จครั้งนี้จึงถือเป็นชัยชนะทั้งฝั่ง open source และนักลงทุนจีน คล้ายกับกลยุทธ์ของ Meta ที่ใช้แนวทาง open source เพื่อขยายอิทธิพลในตลาด

ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด มีรายงานว่า OpenAI กำลังเตรียมเปิดตัว o3 ในเร็วๆ นี้

#AI #OpenSource #DeepSeek #TechNews

Why it matters

💡 บทความนี้นำเสนอจุดเปลี่ยนสำคัญในวงการ AI ที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทขนาดเล็กจากจีนสามารถพัฒนาเทคโนโลยี AI ที่ท้าทายผู้นำตลาดอย่าง OpenAI ได้ ด้วยแนวทาง open source ซึ่งไม่เพียงสะท้อนให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในดุลอำนาจของวงการ AI เท่านั้น แต่ยังชี้ให้เห็นโอกาสที่นักพัฒนาและธุรกิจไทยจะได้เข้าถึงเทคโนโลยี AI ระดับสูงโดยไม่ต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มแบบปิดอีกต่อไป

ข้อมูลอ้างอิงจาก https://futurism.com/the-byte/chinese-ai-deepseek-beats-openai

Read more

Google ปรับนโยบาย AI ครั้งใหญ่ ยกเลิกข้อจำกัดการพัฒนาเทคโนโลยี

news

Google ปรับนโยบาย AI ครั้งใหญ่ ยกเลิกข้อจำกัดการพัฒนาเทคโนโลยี

กูเกิลปรับเปลี่ยนนโยบาย AI ครั้งสำคัญ ยกเลิกข้อจำกัดการพัฒนาเทคโนโลยีที่อาจก่อให้เกิดอันตราย เน้นการกำกับดูแลโดยมนุษย์ สร้างความกังวลในหมู่พนักงานถึงประเด็นจริยธรรม AI

By
หน่วยงานลิขสิทธิ์สหรัฐฯ ออกรายงานชี้ชัด ผลงาน AI ต้องมีส่วนร่วมจากมนุษย์จึงจะได้ลิขสิทธิ์

news

หน่วยงานลิขสิทธิ์สหรัฐฯ ออกรายงานชี้ชัด ผลงาน AI ต้องมีส่วนร่วมจากมนุษย์จึงจะได้ลิขสิทธิ์

หน่วยงานลิขสิทธิ์สหรัฐฯ ออกรายงานยืนยันว่าผลงานที่สร้างจาก AI จะได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์ต่อเมื่อมีการมีส่วนร่วมจากมนุษย์เท่านั้น โดยระดับการมีส่วนร่วมเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณา

By
Microsoft เพิ่มฟีเจอร์ "Think Deeper" ให้ผู้ใช้ Copilot ทั่วไป

news

Microsoft เพิ่มฟีเจอร์ "Think Deeper" ให้ผู้ใช้ Copilot ทั่วไป

Microsoft ประกาศเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปใช้ฟีเจอร์ Think Deeper ฟรีใน Copilot โดยใช้ OpenAI's O1 reasoning model ที่ออกแบบมาให้ "คิดก่อนพูด" เหมาะสำหรับงาน STEM และการวิเคราะห์ขั้นสูง

By
Meta ประกาศวิสัยทัศน์ AI ปี 2025 มุ่งพัฒนา Engineering Agent เทียบชั้นโปรแกรมเมอร์

news

Meta ประกาศวิสัยทัศน์ AI ปี 2025 มุ่งพัฒนา Engineering Agent เทียบชั้นโปรแกรมเมอร์

Mark Zuckerberg เผยวิสัยทัศน์ Meta ปี 2025 มุ่งพัฒนา AI Engineering Agent ให้เทียบเท่าโปรแกรมเมอร์ระดับกลาง พร้อมเปิดตัว Llama 4.0 ตั้งเป้าเป็นผู้นำด้าน open-source AI ระดับโลก

By