ระวัง! Bing AI ให้ข้อมูลยาผิดพลาด อาจเป็นอันตราย

การศึกษาล่าสุดเผย Microsoft Bing AI Copilot ให้คำแนะนำทางการแพทย์ที่ขัดแย้งกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ถึง 39% และ 22% อาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรง ผู้ป่วยควรระมัดระวังและปรึกษาแพทย์โดยตรงเสมอ

ระวัง! Bing AI ให้ข้อมูลยาผิดพลาด อาจเป็นอันตราย

Key takeaway

  • ผลการศึกษาพบว่า 39% ของคำตอบจาก Microsoft Bing AI Copilot ขัดแย้งกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และ 22% ของคำตอบอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงหรือเสียชีวิตได้
  • คำตอบจาก AI Copilot มีความซับซ้อนสูง โดยมีคะแนนความยากในการอ่านเฉลี่ยที่ 37 ซึ่งต้องการระดับการศึกษาสูงในการทำความเข้าใจ
  • แม้ AI จะมีประโยชน์ในวงการแพทย์ แต่การใช้ chatbot สำหรับข้อมูลสุขภาพยังต้องระมัดระวัง ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญโดยตรงแทนการพึ่งพาข้อมูลจาก AI เพียงอย่างเดียว

ผลวิจัยใหม่ชี้ ต้องระวังการใช้ Microsoft Bing AI Copilot สำหรับข้อมูลทางการแพทย์

การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Scimex เผยว่าคำตอบจำนวนมากของ chatbot ต้องอาศัยความรู้ระดับสูงในการทำความเข้าใจ และเกือบ 40% ของคำแนะนำขัดแย้งกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ที่น่าตกใจคือเกือบ 1 ใน 4 ของคำตอบอาจเป็นอันตราย โดยมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดผลร้ายแรงหรือถึงขั้นเสียชีวิตหากปฏิบัติตาม

นักวิจัยได้ทดสอบ Microsoft Copilot ด้วยคำถามยอดนิยม 10 ข้อเกี่ยวกับยาที่ใช้บ่อยที่สุด 50 อันดับแรกในสหรัฐฯ ปี 2563 คำถามครอบคลุมเรื่องข้อบ่งใช้ กลไกการออกฤทธิ์ วิธีใช้ ผลข้างเคียง และข้อห้าม

ผลการศึกษาพบว่า:

- คะแนนความยากในการอ่านเฉลี่ยอยู่ที่ 37 ซึ่งหมายถึงต้องมีการศึกษาระดับสูงจึงจะเข้าใจได้

- 54% ของคำตอบสอดคล้องกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ขณะที่ 39% ขัดแย้ง

- 42% อาจก่อให้เกิดอันตรายเล็กน้อยถึงปานกลาง

- 36% ไม่ก่อให้เกิดอันตราย

- 22% อาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงหรือเสียชีวิต

แม้ AI จะมีบทบาทสำคัญในวงการแพทย์ เช่น การวิเคราะห์ภาพ การค้นหายาใหม่ และช่วยลดภาระงานของบุคลากร แต่การใช้ chatbot สำหรับข้อมูลสุขภาพยังต้องระมัดระวัง

นักวิจัยเน้นย้ำว่าผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพโดยตรง เนื่องจากคำตอบจาก chatbot อาจไม่ถูกต้องเสมอไป การใช้ chatbot ที่เหมาะสมควรจำกัดอยู่ที่การอธิบายศัพท์แพทย์หรือทำความเข้าใจบริบทของยาตามที่แพทย์สั่ง

ทั้งนี้ ผู้เขียนทำงานให้ Trend Micro แต่ความเห็นในบทความนี้เป็นของผู้เขียนเอง

Why it matters

💡
ข่าวนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่สนใจเทคโนโลยี AI และการใช้งานในวงการแพทย์ เนื่องจากเผยให้เห็นถึงข้อจำกัดและความเสี่ยงของการใช้ AI chatbot อย่าง Microsoft Bing Copilot ในการให้ข้อมูลทางการแพทย์ ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าแม้ AI จะมีศักยภาพสูง แต่ยังไม่สามารถทดแทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญได้ ข้อมูลนี้จะช่วยให้ผู้อ่านตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ AI อย่างมีวิจารณญาณ โดยเฉพาะในเรื่องสุขภาพที่มีความละเอียดอ่อน

ข้อมูลอ้างอิงจาก https://www.techrepublic.com/article/copilot-ai-medical-advice-harm/

Read more

AWS ที่ทำให้อินเทอร์เน็ตล่มเกิดขึ้นหลังจาก Amazon เลิกจ้างพนักงานจำนวนมากเพื่อใช้ AI แทน

news

AWS ที่ทำให้อินเทอร์เน็ตล่มเกิดขึ้นหลังจาก Amazon เลิกจ้างพนักงานจำนวนมากเพื่อใช้ AI แทน

AWS ประสบปัญหาระบบล่มครั้งใหญ่ ส่งผลให้บริการออนไลน์ทั่วโลกหยุดชะงัก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจาก Amazon เลิกจ้างพนักงานจำนวนมากเพื่อนำ AI มาใช้แทน สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไป

By
อเมซอนเปิดตัวต้นแบบแว่นตาอัจฉริยะ AI สำหรับพนักงานส่งของ

news

อเมซอนเปิดตัวต้นแบบแว่นตาอัจฉริยะ AI สำหรับพนักงานส่งของ

Amazon เปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะ Amelia ที่ใช้ AI ช่วยพนักงานส่งของทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มาพร้อมกล้องและจอแสดงผลในตัว ทำงานร่วมกับเสื้อกั๊กพิเศษ กำลังทดสอบกับพันธมิตรหลายราย

By
Meta ปลดพนักงาน 600 ตำแหน่งในห้องปฏิบัติการ AI Superintelligence

news

Meta ปลดพนักงาน 600 ตำแหน่งในห้องปฏิบัติการ AI Superintelligence

Meta ประกาศปลดพนักงาน 600 ตำแหน่งในแผนก Superintelligence Labs เพื่อลดความซับซ้อนขององค์กร แต่ยืนยันว่ายังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนา AI และจะเร่งจ้างนักวิจัยใหม่ในทีม TBD

By
Target ใช้ AI สร้างความแตกต่างในธุรกิจค้าปลีก

news

Target ใช้ AI สร้างความแตกต่างในธุรกิจค้าปลีก

Target เดินหน้าใช้ AI ปฏิวัติธุรกิจค้าปลีก ผ่านแพลตฟอร์ม Target Trend Brain วิเคราะห์เทรนด์ตลาด พร้อมพัฒนาระบบคัดกรองผู้ขายและยกระดับทักษะพนักงานทั่วองค์กร เพื่อสร้างความแตกต่างในตลาด

By