บัณฑิตอังกฤษเผชิญตลาดงานที่แย่ที่สุดตั้งแต่ปี 2018 ท่ามกลางการเติบโตของ AI
บัณฑิตอังกฤษเผชิญตลาดงานที่ยากลำบากที่สุดในรอบ 6 ปี ด้วยจำนวนตำแหน่งงานที่ลดลง 33% ขณะที่บริษัทหันมาใช้ AI ทดแทน ผู้เชี่ยวชาญแนะให้เร่งพัฒนาทักษะเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลง

Key takeaway
- ตลาดงานในสหราชอาณาจักรกำลังเผชิญภาวะที่ท้าทายที่สุดในรอบ 6 ปี โดยตำแหน่งงานสำหรับบัณฑิตจบใหม่ลดลงถึง 33% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากนายจ้างชะลอการจ้างงานและหันมาใช้ AI มากขึ้น
- IMF คาดการณ์ว่า 60% ของงานในเศรษฐกิจขั้นสูงอย่างสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรมีความเสี่ยงจาก AI โดยเฉพาะงาน "คอปกขาว" เช่น ทนายความ แพทย์ และวิศวกรซอฟต์แวร์
- รัฐมนตรีเทคโนโลยีของอังกฤษเน้นย้ำความสำคัญในการปรับตัวและเรียนรู้ AI โดยเร็ว เพื่อไม่ให้ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และมองว่า AI จะสร้างโอกาสใหม่ๆ ในตลาดแรงงานมากกว่าที่หลายคนกังวล
บัณฑิตมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรกำลังเผชิญกับตลาดงานที่ยากลำบากที่สุดในรอบหกปี เนื่องจากนายจ้างชะลอการจ้างงานและหันมาใช้ AI เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน
เว็บไซต์หางาน Indeed เปิดเผยข้อมูลล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่า จำนวนตำแหน่งงานสำหรับบัณฑิตจบใหม่ลดลงถึง 33% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบเจ็ดปี ขณะที่ประกาศงานโดยรวม ณ กลางเดือนมิถุนายน ลดลง 5% เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนมีนาคม สะท้อนให้เห็นถึงตลาดแรงงานที่ประสบปัญหาจากภาษีนายจ้างที่สูงขึ้นและการปรับค่าแรงขั้นต่ำตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา
ที่น่าสนใจคือ สหราชอาณาจักรเป็นประเทศเดียวที่มีตำแหน่งงานว่างน้อยกว่าช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 เมื่อเปรียบเทียบกับสหรัฐอเมริกาและประเทศในยุโรป Jack Kennedy นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ Indeed กล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวแสดงถึง "การอ่อนตัวอย่างต่อเนื่องมากกว่าการดิ่งลง" ในตลาดแรงงาน
"แม้ว่าตลาดแรงงานของสหราชอาณาจักรจะยังคงรักษาสภาพโดยรวมได้ แต่ผู้เข้าสู่ตลาดใหม่อย่างบัณฑิตกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ท้าทายในการก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงาน" Kennedy กล่าว "นี่เป็นสัญญาณว่านายจ้างมีแนวโน้มรักษาพนักงานเดิมไว้ ขณะที่ผู้สังเกตการณ์บางรายเห็นว่าตำแหน่งงานระดับเริ่มต้นในอาชีพวิชาชีพมีความเสี่ยงเป็นพิเศษต่อการถูกแทนที่ด้วย AI"
ผลกระทบของ AI ต่อตลาดแรงงานมีการคาดการณ์ที่หลากหลาย งานวิจัยจาก OECD พบว่าเทคโนโลยีนี้อาจส่งผลกระทบต่อวิชาชีพ "คอปกขาว" เช่น ทนายความ แพทย์ และวิศวกรซอฟต์แวร์ ด้าน IMF ประมาณการว่า 60% ของงานในเศรษฐกิจขั้นสูงอย่างสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรมีความเสี่ยงจาก AI และครึ่งหนึ่งของงานเหล่านี้อาจได้รับผลกระทบในเชิงลบ
อย่างไรก็ตาม สถาบัน Tony Blair ระบุว่าการสูญเสียงานที่อาจเกิดขึ้นในภาคเอกชนของสหราชอาณาจักรอาจบรรเทาได้ด้วย AI ที่จะสร้างตำแหน่งงานใหม่ๆ ขึ้นมาทดแทน
เมื่อเร็วๆ นี้ Peter Kyle รัฐมนตรีเทคโนโลยี ได้เรียกร้องให้แรงงานและธุรกิจ "ลงมือทำทันที" ในการทำความเข้าใจกับ AI หรือเสี่ยงที่จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
เขากล่าวว่า: "ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่กำลังเข้าหาเรื่องนี้ด้วยความหวาดกลัว แต่เมื่อพวกเขาเริ่มต้นใช้ AI มันกลายเป็นความตื่นเต้น เพราะมันตรงไปตรงมากว่าที่คิด และให้ผลตอบแทนมากกว่าที่คาดหวัง"
"ไม่มีใครในตลาดแรงงานปัจจุบันที่ไม่สามารถพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับเศรษฐกิจในอีกห้าปีข้างหน้า... นี่คือมุมมองเชิงบวกที่ผมอยากจะบอกว่า: ลงมือทำตอนนี้ และคุณจะเติบโตไปกับอนาคต แต่ถ้าไม่ทำ ผมเชื่อว่าบางคนจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมกังวลมากที่สุด"
Why it matters
💡 ข่าวนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่สนใจติดตามผลกระทบของ AI ต่อตลาดแรงงานในระดับโลก โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักรที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ข้อมูลจาก Indeed แสดงให้เห็นถึงการลดลงของตำแหน่งงานสำหรับบัณฑิตจบใหม่ถึง 33% ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนสำคัญสำหรับผู้ที่กำลังจะเข้าสู่ตลาดแรงงาน และยังสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการพัฒนาทักษะด้าน AI เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น
ข้อมูลอ้างอิงจาก https://www.theguardian.com/money/2025/jun/25/uk-university-graduates-toughest-job-market-rise-of-ai