CEO ของ Klarna เชื่อว่า AI จะแทนที่งานจำนวนมากจนเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่

CEO Klarna เผยมุมมองว่า AI จะแทนที่งานออฟฟิศจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย แม้ก่อนหน้านี้บริษัทล้มเหลวในการใช้ AI แทนพนักงานบริการลูกค้า 700 ตำแหน่ง เนื่องจากคุณภาพงานต่ำกว่า

CEO ของ Klarna เชื่อว่า AI จะแทนที่งานจำนวนมากจนเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่

Key takeaway

  • AI อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อตลาดแรงงาน โดยเฉพาะงานคอปกขาว (white collar) จนอาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในระยะสั้น ตามความเห็นของ CEO Klarna
  • แม้ CEO Klarna จะเคยประกาศว่าจะใช้ AI แทนพนักงานบริการลูกค้า 700 ตำแหน่ง แต่สุดท้ายต้องกลับมาจ้างคนเพิ่ม เนื่องจาก AI ยังทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพเท่ามนุษย์
  • มีการคาดการณ์ว่าในอนาคต งานที่ต้องใช้ "การสัมผัสแบบมนุษย์" (human touch) จะมีมูลค่าสูงขึ้น แต่พนักงานจำเป็นต้องพัฒนาทักษะใหม่ๆ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง

CEO ของสตาร์ทอัพด้านการผ่อนชำระ Klarna กำลังอ้างว่า AI จะเข้ามาแย่งงานคอปกขาวของคุณ—แม้ว่าการกระทำของเขาเองทำให้กลายเป็นตัวอย่างระดับนานาชาติของผู้บริหารที่หมกมุ่นกับ AI และกระตือรือร้นที่จะแทนที่พนักงานด้วยเทคโนโลยีดังกล่าว

Sebastian Siemiatkowski CEO ชาวสวีเดนยอมรับในรายการพอดคาสต์ The Times Tech ว่าการนำเทคโนโลยีมาใช้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อ "งานคอปกขาว" และอาจนำไปสู่ "ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในระยะสั้นอย่างแน่นอน"

"น่าเสียดายที่ผมไม่เห็นว่าเราจะหลีกเลี่ยงมันได้อย่างไร กับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในแง่ของเทคโนโลยี" CEO กล่าวถึงการสูญเสียงานและภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้น

ในประเด็นนี้ เขาอาจจะพูดถูก เพราะเรากำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยมาระยะหนึ่งแล้ว และอัตราการว่างงานซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจาก CEO ที่หมกมุ่นกับ AI เช่น Siemiatkowski ที่ปลดพนักงานจำนวนมาก เป็นปัจจัยสำคัญของปัญหานี้

อย่างไรก็ตาม นับเป็นคำพูดที่กล้าหาญจาก CEO ชาวสวีเดนคนนี้ เมื่อพิจารณาว่าเพียงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เขายอมรับกับ Bloomberg ว่ากำลังมองหาการจ้างงานใหม่สำหรับตำแหน่งบริการลูกค้า 700 ตำแหน่งที่เขาเคยโอ้อวดว่าจะแทนที่ด้วย AI ภายในปี 2024

เหตุผล? เพราะ Siemiatkowski ยอมรับว่า AI ทำงานได้ "คุณภาพต่ำกว่า" พนักงานที่เป็นมนุษย์ (ภายหลังการเผยแพร่บทความนี้ ฝ่าย PR ของ Klarna ได้ติดต่อเพื่อแจ้งว่าคำว่า "คุณภาพต่ำกว่า" เป็น "การอ้างอิงผิด")

แม้จะรีบร้อนนำ AI มาใช้ในธุรกิจของตัวเองเร็วเกินไป CEO ของบริการ "ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง" รายนี้ยังคงยืนยันว่าเทคโนโลยีจะพัฒนาไปถึงจุดที่ทดแทนแรงงานมนุษย์ได้อย่างแน่นอน

"ผมรู้สึกเหมือนได้รับอีเมลเกือบทุกวันจาก CEO ของบริษัทเทคหรือบริษัทใหญ่ที่บอกว่าพวกเขาเห็นโอกาสที่จะเพิ่มประสิทธิภาพและอยากเปรียบเทียบข้อมูลกัน" เขาบอกกับ The Times Tech "ถ้าผมรวบรวมอีเมลเหล่านั้นและนับจำนวนตำแหน่งงานที่จะถูกทดแทน มันมีจำนวนมากทีเดียว"

เช่นเดียวกับผู้สนับสนุน AI คนอื่นๆ Siemiatkowski เสริมว่าในที่สุด "คุณค่าของการสัมผัสแบบมนุษย์จะเพิ่มขึ้น" และพนักงานที่เป็นมนุษย์จะ "ให้บริการที่มีคุณภาพสูงกว่ามาก"—หลังจากเรียนรู้ทักษะใหม่ ซึ่งอาจจะล้าสมัยหรือไม่ก็ได้ในอนาคตที่ไม่ชัดเจน

Siemiatkowski อาจเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของ CEO ที่สนับสนุน AI—และน่าเป็นห่วงว่ามีผู้บริหารอีกมากมายที่มองการคาดการณ์แบบนี้เป็นความจริงและกำลังเดินตามรอย

Why it matters

💡 ข่าวนี้น่าติดตามเพราะสะท้อนมุมมองที่น่าสนใจของ CEO บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำต่อผลกระทบของ AI ต่อตลาดแรงงาน โดยเฉพาะการคาดการณ์ว่า AI จะเข้ามาแทนที่งานคอปกขาวจำนวนมากจนอาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ที่น่าสนใจคือ แม้แต่บริษัทที่พยายามนำ AI มาใช้อย่างจริงจังอย่าง Klarna ก็ยังต้องยอมรับว่า AI ยังทำงานได้ไม่ดีเท่ามนุษย์ในหลายด้าน ทำให้ต้องกลับมาจ้างพนักงานใหม่ ข่าวนี้จึงให้มุมมองที่สมดุลต่อความท้าทายในการนำ AI มาใช้ในโลกธุรกิจจริง

ข้อมูลอ้างอิงจาก https://futurism.com/klarna-ceo-ai-replacing-jobs

Read more

AI แบบ Agentic ถูกนำมาใช้เร็วขึ้นแม้จะมีความเสี่ยง

news

AI แบบ Agentic ถูกนำมาใช้เร็วขึ้นแม้จะมีความเสี่ยง

รายงานล่าสุดจาก KPMG เผยองค์กรหันมาใช้ Agentic AI เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าในสองไตรมาส แม้จะมีความท้าทายด้านทักษะ การต่อต้านจากพนักงาน และความซับซ้อนของระบบ ผู้นำองค์กรมองว่าเป็นโอกาสในการสร้างมูลค่าใหม่

By
Apple เล็งใช้ AI จากภายนอกยกระดับความสามารถ Siri

news

Apple เล็งใช้ AI จากภายนอกยกระดับความสามารถ Siri

แอปเปิลกำลังพิจารณาร่วมมือกับบริษัท AI ชั้นนำอย่าง Anthropic หรือ OpenAI เพื่อเสริมศักยภาพให้กับ Siri ในเวอร์ชันใหม่ พร้อมพัฒนาเทคโนโลยี AI ของตัวเองควบคู่กันไป

By
ศาลสหรัฐฯ ตัดสินให้การใช้หนังสือลิขสิทธิ์เพื่อฝึกฝน AI เป็น "การใช้งานโดยชอบธรรม"

news

ศาลสหรัฐฯ ตัดสินให้การใช้หนังสือลิขสิทธิ์เพื่อฝึกฝน AI เป็น "การใช้งานโดยชอบธรรม"

ศาลสหรัฐฯ สร้างบรรทัดฐานสำคัญ ตัดสินให้การใช้หนังสือลิขสิทธิ์เพื่อฝึกฝน AI เป็นการใช้งานโดยชอบธรรม แม้ไม่ต้องขออนุญาตจากผู้เขียน แต่ยังมีข้อจำกัดเรื่องการใช้สำเนาละเมิดลิขสิทธิ์

By
เยอรมนีขอให้ Apple และ Google ถอดแอป DeepSeek AI ออกเนื่องจากปัญหาความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

news

เยอรมนีขอให้ Apple และ Google ถอดแอป DeepSeek AI ออกเนื่องจากปัญหาความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

เยอรมนีเรียกร้องให้ถอดแอป DeepSeek AI จาก app store หลังพบปัญหาการส่งข้อมูลผู้ใช้ไปจีน สร้างความกังวลด้านความเป็นส่วนตัว ท่ามกลางการต่อต้านจากหลายประเทศทั่วโลก

By