AI แบบ Agentic ถูกนำมาใช้เร็วขึ้นแม้จะมีความเสี่ยง
รายงานล่าสุดจาก KPMG เผยองค์กรหันมาใช้ Agentic AI เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าในสองไตรมาส แม้จะมีความท้าทายด้านทักษะ การต่อต้านจากพนักงาน และความซับซ้อนของระบบ ผู้นำองค์กรมองว่าเป็นโอกาสในการสร้างมูลค่าใหม่
Key takeaway
- การใช้งาน Agentic AI เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยองค์กรที่ใช้งานเต็มรูปแบบเพิ่มขึ้นจาก 11% เป็น 33% ในช่วงสองไตรมาสที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงการยอมรับเทคโนโลยีที่เร่งตัวขึ้น แม้จะมีความท้าทายด้านทักษะทางเทคนิคและการต่อต้านจากพนักงาน
- Gartner คาดการณ์ว่า 40% ของโครงการ Agentic AI จะถูกยกเลิกภายในปี 2027 เนื่องจากปัญหาด้านต้นทุน มูลค่าทางธุรกิจที่ไม่ชัดเจน และการควบคุมความเสี่ยงที่ไม่เพียงพอ นอกจากนี้ยังมีปัญหา "agent washing" ที่ผู้ให้บริการพยายามสร้างแบรนด์ใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์เดิมโดยไม่มีความสามารถด้าน agentic ที่แท้จริง
- องค์กรส่วนใหญ่ (46%) กำลังใช้แนวทางที่สมดุลในการใช้งาน Agentic AI โดยมุ่งเน้นทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพและการสร้างรายได้ ขณะที่ความกังวลหลักยังคงเป็นเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และคุณภาพของข้อมูล
ประมาณหนึ่งในสามขององค์กรได้ก้าวไปสู่การใช้งานเทคโนโลยี agentic artificial intelligence เต็มรูปแบบ เพิ่มขึ้นสามเท่าจากเดิม 11% ในสองไตรมาสที่ผ่านมา ตามรายงานของ KPMG ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี
จากการสำรวจพบว่า 57% ขององค์กรกำลังทดลองใช้ agents ลดลงจาก 65% และอีก 10% กำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้งาน ลดลงจาก 25% ในไตรมาสก่อนหน้า ตามที่บริษัท Big Four รายงาน
"ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า AI agents กำลังเคลื่อนย้ายจากขั้นทดลองไปสู่การใช้งานจริงอย่างรวดเร็ว—และแรงผลักดันนี้จะเร่งตัวขึ้นอีก" Steve Chase รองประธานด้าน AI และนวัตกรรมดิจิทัลของ KPMG กล่าวในแถลงการณ์ "สิ่งที่ทำให้ช่วงเวลานี้พิเศษคือผู้นำมองเห็น agents ไม่เพียงแค่เป็นวิธีลดต้นทุน แต่เป็นการคิดใหม่เกี่ยวกับการเติบโตและการสร้างมูลค่าใหม่"
ข้อมูลเชิงลึก:
เทคโนโลยีที่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นนี้ยังคงมีความท้าทายในการนำไปใช้ KPMG ระบุ อุปสรรคหลักในการใช้งาน agent ประกอบด้วยช่องว่างด้านทักษะทางเทคนิค การต่อต้านการเปลี่ยนแปลงจากพนักงาน และความซับซ้อนของระบบ ตามผลการวิจัย
Gartner คาดการณ์ว่ามากกว่า 40% ของโครงการ agentic AI จะถูกยกเลิกภายในสิ้นปี 2027 เนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น มูลค่าทางธุรกิจที่ไม่ชัดเจน หรือการควบคุมความเสี่ยงที่ไม่เพียงพอ
"โครงการ agentic AI ส่วนใหญ่ในปัจจุบันเป็นเพียงการทดลองระยะแรกหรือ proof of concept ที่ขับเคลื่อนโดยกระแสและมักถูกนำไปใช้อย่างไม่เหมาะสม" Anushree Verma นักวิเคราะห์อาวุโสที่ Gartner กล่าวในแถลงการณ์วันพุธ "สิ่งนี้อาจทำให้องค์กรมองข้ามต้นทุนและความซับซ้อนที่แท้จริงในการใช้งาน AI agents ในระดับใหญ่ ส่งผลให้โครงการหยุดชะงักไม่ก้าวหน้าสู่การใช้งานจริง พวกเขาจำเป็นต้องแยกแยะกระแสเพื่อตัดสินใจเชิงกลยุทธ์อย่างรอบคอบว่าจะใช้เทคโนโลยีที่กำลังเกิดขึ้นนี้ที่ไหนและอย่างไร"
ผู้ให้บริการหลายรายกำลังสร้างกระแสด้วยการทำ "agent washing" — การสร้างแบรนด์ใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้ว เช่น AI assistants, robotic process automation และ chatbots "โดยไม่มีความสามารถด้าน agentic ที่โดดเด่น" ตามแถลงการณ์
Microsoft, Salesforce, Oracle, SAP และ Workday เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่เริ่มเปิดตัว agents เมื่อปีที่แล้ว โดยให้คำมั่นว่าจะเป็นขั้นตอนต่อไปของการ automation ในองค์กร
บริษัท Big Four อย่าง KPMG และ Deloitte ก็รีบเข้าร่วมวงด้วยเช่นกัน โดยนำเสนอโซลูชัน agentic AI ของตนเองให้กับลูกค้า
บริษัทที่กำลังใช้งาน agentic AI หลายแห่งกำลังใช้แนวทางที่สมดุลและเชิงกลยุทธ์ ตามผลการสำรวจของ KPMG
เกือบครึ่งของผู้นำ (46%) กล่าวว่าพวกเขามุ่งเน้นทั้งประสิทธิภาพและการเติบโตของรายได้ในกลยุทธ์ AI agent ของตน ตามรายงานของ KPMG ในขณะเดียวกัน ความกังวลของผู้นำเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ประเด็นด้านกฎระเบียบ และคุณภาพข้อมูลอยู่ในระดับสูงสุดในรอบสามไตรมาส
Why it matters
💡 ข่าวนี้นำเสนอข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของการใช้งาน Agentic AI ในองค์กรต่างๆ ทั่วโลก โดยมีข้อมูลล่าสุดจาก KPMG และ Gartner ที่ชี้ให้เห็นทั้งโอกาสและความท้าทาย ผู้อ่านจะได้เข้าใจถึงแนวโน้มการใช้งาน AI ประเภทนี้ที่เพิ่มขึ้นถึงสามเท่าในเวลาเพียง 6 เดือน รวมถึงปัจจัยเสี่ยงที่ต้องพิจารณาก่อนนำไปประยุกต์ใช้ในองค์กร ข้อมูลนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่กำลังพิจารณาการนำ Agentic AI มาใช้งาน
ข้อมูลอ้างอิงจาก https://www.cfodive.com/news/agentic-ai-deployment-triples-despite-risks-kpmg/751789/