Google ประกาศขยายบริการ Deep Research ให้ผู้ใช้ทั่วไปใช้งานฟรีใน 45 ภาษา

กูเกิลเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึง Deep Research ฟรีใน 45 ภาษา พร้อมอัพเกรดด้วย Gemini 2.0 Flash Thinking และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Gemini with personalization ที่ปรับแต่งคำตอบตามข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้

Google ประกาศขยายบริการ Deep Research ให้ผู้ใช้ทั่วไปใช้งานฟรีใน 45 ภาษา

Key takeaway

  • Deep Research จาก Gemini ได้ขยายให้บริการฟรีใน 45 ภาษา โดยไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิก Gemini Advanced ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างรายงานที่ครอบคลุมและเข้าใจง่ายในหัวข้อที่ซับซ้อน
  • กูเกิลได้อัพเกรด Deep Research ให้ทำงานบนโมเดล Gemini 2.0 Flash Thinking Experimental ซึ่งเป็นระบบที่สามารถแยกแยะปัญหาออกเป็นขั้นตอนย่อยๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • มีการเปิดตัวฟีเจอร์ "Gemini with personalization" ที่สามารถปรับแต่งคำตอบตามข้อมูลจากแอพและบริการต่างๆ ของกูเกิล รวมถึงจะรองรับการดึงข้อมูลจาก Google Photos และ YouTube ในอนาคต

กูเกิลได้ประกาศขยายการให้บริการ Deep Research ฟีเจอร์พิเศษจาก Gemini ให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ฟรีใน 45 ภาษา โดยไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิก Gemini Advanced

Deep Research เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถขอให้ Gemini สร้างรายงานที่ครอบคลุมและเข้าใจง่ายในหัวข้อที่ซับซ้อน โดยจุดเด่นคือการทำงานที่ละเอียดรอบคอบกว่า chatbot ทั่วไป ด้วยการสร้างแผนการวิจัยก่อนค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากเว็บไซต์ต่างๆ

ล่าสุด กูเกิลได้อัพเกรด Deep Research ให้ทำงานบนโมเดล Gemini 2.0 Flash Thinking Experimental ซึ่งเป็นระบบ chain-of-thought ที่สามารถแยกแยะปัญหาออกเป็นขั้นตอนย่อยๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พร้อมกันนี้ กูเกิลยังได้เปิดตัวฟีเจอร์ทดลอง "Gemini with personalization" ที่ใช้โมเดล Flash Thinking เช่นกัน โดยจะช่วยให้ Gemini สามารถปรับแต่งคำตอบตามข้อมูลจากแอพและบริการต่างๆ ของกูเกิลที่ผู้ใช้งานอยู่ และในอนาคตอันใกล้จะสามารถดึงข้อมูลจาก Google Photos และ YouTube เพื่อให้คำตอบที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น

ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ได้โดยเลือก "Personalization (experimental)" จากเมนู model dropdown ใน Gemini Apps interface โดยระบบจะใช้ประวัติการค้นหาเฉพาะเมื่อพิจารณาแล้วว่าข้อมูลนั้นมีประโยชน์ และสามารถปิดฟีเจอร์นี้ได้ผ่านแบนเนอร์ลิงก์

ขณะนี้ฟีเจอร์ดังกล่าวเปิดให้ใช้งานบนเว็บสำหรับผู้ใช้ Gemini และ Gemini Advanced แล้ว ส่วนเวอร์ชันมือถือจะทยอยเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้

Why it matters

💡 ข่าวนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เครื่องมือ AI ในการทำวิจัยและค้นคว้าข้อมูลเชิงลึก เนื่องจาก Deep Research จาก Gemini ที่เคยเป็นฟีเจอร์พรีเมียม จะเปิดให้ใช้งานฟรีใน 45 ภาษา พร้อมการอัพเกรดด้วยโมเดล Gemini 2.0 Flash Thinking ที่ทำงานแบบ chain-of-thought และฟีเจอร์ใหม่ที่สามารถปรับแต่งคำตอบตามข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ ทำให้การค้นคว้าข้อมูลมีประสิทธิภาพและตรงความต้องการมากขึ้น

ข้อมูลอ้างอิงจาก https://www.engadget.com/ai/googles-gemini-deep-research-is-now-available-to-everyone-160043485.html

Read more

AWS ที่ทำให้อินเทอร์เน็ตล่มเกิดขึ้นหลังจาก Amazon เลิกจ้างพนักงานจำนวนมากเพื่อใช้ AI แทน

news

AWS ที่ทำให้อินเทอร์เน็ตล่มเกิดขึ้นหลังจาก Amazon เลิกจ้างพนักงานจำนวนมากเพื่อใช้ AI แทน

AWS ประสบปัญหาระบบล่มครั้งใหญ่ ส่งผลให้บริการออนไลน์ทั่วโลกหยุดชะงัก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจาก Amazon เลิกจ้างพนักงานจำนวนมากเพื่อนำ AI มาใช้แทน สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไป

By
อเมซอนเปิดตัวต้นแบบแว่นตาอัจฉริยะ AI สำหรับพนักงานส่งของ

news

อเมซอนเปิดตัวต้นแบบแว่นตาอัจฉริยะ AI สำหรับพนักงานส่งของ

Amazon เปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะ Amelia ที่ใช้ AI ช่วยพนักงานส่งของทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มาพร้อมกล้องและจอแสดงผลในตัว ทำงานร่วมกับเสื้อกั๊กพิเศษ กำลังทดสอบกับพันธมิตรหลายราย

By
Meta ปลดพนักงาน 600 ตำแหน่งในห้องปฏิบัติการ AI Superintelligence

news

Meta ปลดพนักงาน 600 ตำแหน่งในห้องปฏิบัติการ AI Superintelligence

Meta ประกาศปลดพนักงาน 600 ตำแหน่งในแผนก Superintelligence Labs เพื่อลดความซับซ้อนขององค์กร แต่ยืนยันว่ายังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนา AI และจะเร่งจ้างนักวิจัยใหม่ในทีม TBD

By
Target ใช้ AI สร้างความแตกต่างในธุรกิจค้าปลีก

news

Target ใช้ AI สร้างความแตกต่างในธุรกิจค้าปลีก

Target เดินหน้าใช้ AI ปฏิวัติธุรกิจค้าปลีก ผ่านแพลตฟอร์ม Target Trend Brain วิเคราะห์เทรนด์ตลาด พร้อมพัฒนาระบบคัดกรองผู้ขายและยกระดับทักษะพนักงานทั่วองค์กร เพื่อสร้างความแตกต่างในตลาด

By