ผู้บริหารเทคโนโลยีเตือนภัยการพึ่งพา AI มากเกินไป อาจนำไปสู่การถดถอยทางปัญญา
Sol Rashidi ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI เตือนถึงการถดถอยทางปัญญาจากการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไป แนะใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ไม่ใช่แทนที่ความคิด พร้อมยกตัวอย่างวัฒนธรรม Copy & Paste ที่ทำลายคุณค่าของการคิดวิเคราะห์
Key takeaway
- Sol Rashidi เตือนถึงปรากฏการณ์ "Intellectual Atrophy" หรือการถดถอยทางปัญญา ที่เกิดขึ้นเมื่อมนุษย์มอบหมายกระบวนการคิดให้กับเทคโนโลยี เปรียบเสมือนกล้ามเนื้อที่ไม่ได้ใช้งานจะฝ่อลง
- การใช้ AI อย่างชาญฉลาดควรเป็นการใช้เพื่อเร่งงาน ไม่ใช่ทำงานแทนเรา โดยเฉพาะงานด้านการสื่อสารที่ต้องมาจากความคิดและหัวใจที่มีความจริงใจ
- วัฒนธรรม Copy & Paste จาก AI โดยไม่ผ่านกระบวนการวิจัยและตรวจสอบเป็นอันตราย เพราะองค์กรจ่ายเงินเพื่อสมองและความเป็นเอกลักษณ์ของพนักงาน ไม่ใช่จ่ายให้พนักงานคัดลอกคำตอบจาก AI
Sol Rashidi อดีตผู้บริหารระดับสูงด้านเทคโนโลยีจาก IBM, AWS และ Estée Lauder เผยมุมมองเกี่ยวกับการใช้ AI อย่างชาญฉลาด โดยไม่สูญเสียทักษะการคิดวิเคราะห์ที่สำคัญ
ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา Rashidi ได้พัฒนาและขยายศักยภาพด้าน AI โดยดำเนินการมากกว่า 200 โครงการ เธอเคยดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง ทั้งการบริหารจัดการ Enterprise Data Management ที่ IBM, Chief Data Officer ที่ Sony Music, Chief Analytics Officer ที่ Estée Lauder และหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีสำหรับแผนก Startup ของ AWS ในอเมริกาเหนือ
ปัจจุบัน Rashidi ก่อตั้งบริษัทของตัวเองที่มุ่งเตรียมความพร้อมให้องค์กรในการนำ AI และ Automation มาเสริมศักยภาพบุคลากร แทนที่จะแทนที่แรงงานมนุษย์
การถดถอยทางปัญญา (Intellectual Atrophy)
Rashidi เตือนถึงปรากฏการณ์ "Intellectual Atrophy" หรือการถดถอยทางปัญญา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อมนุษย์สูญเสียความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เพราะมอบหมายกระบวนการคิดให้กับเทคโนโลยี เปรียบเสมือนกล้ามเนื้อที่ไม่ได้ใช้งานจะฝ่อลง สมองของเราก็เช่นกัน
วิธีใช้ AI อย่างชาญฉลาด
ในชีวิตประจำวัน Rashidi ใช้เครื่องมือ AI 6-8 ตัวโดยเฉพาะสำหรับการประมวลผลข้อมูล แต่เธอจะถามตัวเองเสมอว่า "ฉันกำลังใช้มันเพื่อเร่งงาน หรือกำลังใช้มันทำงานแทนฉัน?" เธอแนะนำให้ใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่ยังคงรักษาทักษะการคิดวิเคราะห์ไว้กับตัวเอง
สำหรับงานด้านการสื่อสาร เธอไม่ใช้ AI เขียนอีเมล, keynote หรือการสื่อสารส่วนตัว เพราะเชื่อว่าการสื่อสารที่มาจากความคิดและหัวใจต้องมีความจริงใจ และสามารถถ่ายทอดข้อความได้อย่างถูกต้อง
อันตรายของวัฒนธรรม Copy & Paste
Rashidi สังเกตว่าสังคมปัจจุบันให้คุณค่ากับความสะดวกสบายมากกว่าความสามารถในการแข่งขัน และเน้นความเร็วมากกว่าคุณภาพของเนื้อหา แต่สิ่งสำคัญคือการชะลอตัวและกลั่นกรอง เพราะเรากำลังบริโภคข้อมูลมหาศาลทุกวันผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ
เธอยกตัวอย่างประสบการณ์กับทีมนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลที่บริษัท Fortune 500 แห่งหนึ่ง ที่นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลระดับ Junior สามารถผลิตผลงานเหมือนระดับ Senior ได้ในเวลาน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง เพียงเพราะพวกเขาเชื่อคำตอบจาก ChatGPT โดยไม่ผ่านกระบวนการวิจัยและตรวจสอบ
Rashidi จึงออกนโยบายห้ามใช้ AI ทำงานแทน แต่อนุญาตให้ใช้เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและเร่งกระบวนการวิจัยเท่านั้น เธอเน้นย้ำกับทีมว่า "ฉันจ่ายเงินเพื่อสมองและความเป็นเอกลักษณ์ของคุณ ไม่ใช่จ่ายให้คุณ copy และ paste เพราะ license สำหรับ Enterprise API จาก OpenAI ยังถูกกว่าเงินเดือนของคุณมาก"
Why it matters
💡 ข่าวนี้เป็นเรื่องที่ผู้ทำงานด้านเทคโนโลยีและผู้ใช้ AI ทุกคนควรอ่าน เพราะเป็นคำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญระดับสูงที่มีประสบการณ์จริงในวงการ AI กว่า 15 ปี Sol Rashidi ชี้ให้เห็นอันตรายของการพึ่งพา AI มากเกินไปจนเกิด "การถดถอยทางปัญญา" ซึ่งกำลังเป็นปัญหาในองค์กรชั้นนำ บทความนี้ไม่เพียงเตือนภัย แต่ยังให้แนวทางการใช้ AI อย่างชาญฉลาดที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยไม่สูญเสียทักษะการคิดวิเคราะห์อันมีค่า เป็นมุมมองที่สมดุลและจำเป็นในยุคที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงทุกอุตสาหกรรม
ข้อมูลอ้างอิงจาก https://www.businessinsider.com/former-aws-ibm-exec-ways-not-become-dependent-ai-2025-12