สหภาพยุโรปห้ามใช้ AI Assistants ในการประชุมออนไลน์
สหภาพยุโรปประกาศห้ามใช้ผู้ช่วย AI ในการประชุมออนไลน์ ท่ามกลางความกังวลด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว แม้เทคโนโลยี AI agents กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดโลก

Key takeaway
- สหภาพยุโรปออกคำสั่งห้ามใช้ AI Agents ในการประชุมออนไลน์ โดยเฉพาะการใช้งานเพื่อถอดความ จดบันทึก และบันทึกภาพเสียง เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยและการควบคุมการทำงานของ AI
- บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft, Anthropic และ OpenAI กำลังพัฒนาและเปิดตัวเทคโนโลยี AI Agents อย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มความสามารถในการควบคุมและทำงานอัตโนมัติมากขึ้น แม้จะมีความกังวลด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
- Gartner คาดการณ์ว่าภายในปี 2028 แอปพลิเคชันองค์กร 33% จะมีการใช้งาน AI Agents (เพิ่มขึ้นจาก 1% ในปี 2024) และจะมีการใช้งานในการตัดสินใจประจำวันถึง 15% แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยีนี้
สหภาพยุโรปได้ออกคำสั่งห้ามการใช้ผู้ช่วยเสมือนที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในระหว่างการประชุมออนไลน์ ซึ่งปกติผู้ช่วยเหล่านี้มักถูกใช้เพื่อถอดความ จดบันทึก หรือบันทึกภาพและเสียงระหว่างการประชุมทางวิดีโอ
ในการนำเสนอของคณะกรรมาธิการยุโรปที่มอบให้กับ European Digital Innovation Hubs ช่วงต้นเดือนนี้ มีการระบุในสไลด์ "Online Meeting Etiquette" อย่างชัดเจนว่า "No AI Agents are allowed"
AI agents คือเครื่องมือที่สามารถดำเนินงานที่ซับซ้อนและหลายขั้นตอนได้โดยอัตโนมัติ โดยทั่วไปทำงานผ่านการโต้ตอบกับแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น ซอฟต์แวร์การประชุมวิดีโอ ตัวอย่างเช่น Salesforce ใช้ AI agents ในการโทรหาลูกค้าที่มีศักยภาพ
คณะกรรมาธิการยืนยันว่านี่เป็นครั้งแรกที่มีการบังคับใช้กฎนี้ แต่กลับปฏิเสธที่จะให้เหตุผลเมื่อ Politico สอบถาม แม้ว่าจะไม่มีกฎหมายเฉพาะของสหภาพยุโรปที่ควบคุม AI agents โดยตรง แต่โมเดล AI ที่ขับเคลื่อนเทคโนโลยีเหล่านี้จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เข้มงวดภายใต้ AI Act
AI agents สร้างความกังวลด้านความปลอดภัย
แม้ว่าเครื่องมือจดบันทึกด้วย AI และ agent ประเภทอื่นๆ จะไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยโดยตรง แต่รายงานปี 2025 จากผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ทั่วโลกระบุว่า ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเกิดจากผู้ใช้ที่ไม่ทราบว่า AI agents กำลังทำงานอะไร ความสามารถในการทำงานนอกเหนือการควบคุมของผู้ใช้ และการปฏิสัมพันธ์ระหว่าง AI กับ AI ปัจจัยเหล่านี้ทำให้การคาดเดาพฤติกรรมของ AI agents ทำได้ยากกว่าโมเดลมาตรฐาน
บริษัทเทคโนโลยีจำเป็นต้องระมัดระวังเมื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำงานได้มากขึ้นโดยผู้ใช้ไม่รู้ตัว กรณีเตือนภัยที่สำคัญคือ Microsoft Recall ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI ที่ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุม PC หรือค้นหาไฟล์โดยใช้ภาษาธรรมชาติ
ความสะดวกนี้มาพร้อมต้นทุน: Recall จะจับภาพหน้าจอทุกๆ ไม่กี่วินาทีและบันทึกเป็นไทม์ไลน์ ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและการใช้ข้อมูล ส่งผลให้การเปิดตัวล่าช้าออกไปอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม Microsoft ได้เปิดตัว agents ชุดหนึ่งที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์
AI agents กำลังเติบโตอย่างแพร่หลาย
ข้อกังวลเหล่านี้ไม่ได้หยุดยั้งผู้พัฒนา AI จากการเพิ่มความสามารถควบคุมให้กับโมเดลของพวกเขา Anthropic ได้เพิ่มฟีเจอร์ Computer Use ให้กับแชทบอท Claude Sonnet ในเดือนตุลาคม 2024 ซึ่งให้ความสามารถในการนำทางแอปเดสก์ท็อป เลื่อนเคอร์เซอร์ คลิกปุ่ม และพิมพ์ข้อความ นอกจากนี้ ฟังก์ชันการวิจัยเชิงลึกที่ประกาศในสัปดาห์นี้ยังตอบสนองต่อคำสั่งแบบ "agentic" เช่นเดียวกับเครื่องมือของ Microsoft
เมื่อเดือนที่แล้ว OpenAI ได้ขยายเครื่องมือ text-to-speech และ speech-to-text ไปสู่โมเดล agentic ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้น ในเดือนมกราคม 2025 OpenAI ประกาศเปิดตัว Operator ซึ่งเป็นเครื่องมือ agentic ที่ทำงานในเบราว์เซอร์เพื่อดำเนินการอัตโนมัติ เช่น การสั่งซื้อของชำหรือการจองทัวร์
Anthropic และ OpenAI กำลังร่วมมือกันพัฒนาเทคโนโลยี agent โดย OpenAI ได้เพิ่มการสนับสนุนสำหรับ Model Context Protocol ของ Anthropic ซึ่งเป็นมาตรฐานโอเพนซอร์สสำหรับการเชื่อมต่อแอป AI รวมถึง agents กับแหล่งเก็บข้อมูล อีกทั้ง Anthropic ยังร่วมมือกับ Databricks เพื่อช่วยลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่สร้าง agents ของตนเอง
TechRepublic คาดการณ์เมื่อสิ้นปี 2024 ว่าการใช้งาน AI agents จะเพิ่มขึ้นในปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับความคิดของ Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ที่กล่าวในบล็อกโพสต์เดือนมกราคมว่า "เราอาจเห็น AI agents รุ่นแรกที่ 'เข้าร่วมกำลังแรงงาน' และเปลี่ยนแปลงผลผลิตของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ"
Gartner คาดการณ์ว่าภายในปี 2028 แอปพลิเคชันซอฟต์แวร์องค์กร 33% จะรวม agentic AI เพิ่มขึ้นจากน้อยกว่า 1% ในปี 2024 นอกจากนี้ การปฏิสัมพันธ์กับร้านค้าออนไลน์ 20% และการตัดสินใจในการทำงานประจำวันอย่างน้อย 15% จะดำเนินการโดย agents ภายในปีดังกล่าว
Why it matters
💡 ข่าวนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ทำงานในวงการเทคโนโลยีและองค์กรต่างๆ เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งสำคัญของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับการใช้ AI Assistants ในการประชุมออนไลน์ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานในยุคดิจิทัล นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่มาพร้อมกับการใช้เทคโนโลยี AI ในที่ทำงาน ทำให้องค์กรต่างๆ ต้องพิจารณาทบทวนนโยบายการใช้ AI ของตนเอง
ข้อมูลอ้างอิงจาก https://www.techrepublic.com/article/news-eu-bans-ai-assistants-virtual-meetings/