บริษัทผู้พัฒนา ChatGPT อาจก้าวขึ้นเป็นบริษัทเทคโนโลยีเอกชนที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก
OpenAI ผู้พัฒนา ChatGPT กำลังเจรจาขายหุ้นที่อาจผลักดันมูลค่าบริษัทสู่ 500 พันล้านดอลลาร์ แซงหน้า SpaceX ของ Elon Musk เปิดโอกาสให้พนักงานขายหุ้นท่ามกลางกระแส AI ที่กำลังเฟื่องฟู

Key takeaway
- OpenAI กำลังเจรจาขายหุ้นที่อาจทำให้บริษัทมีมูลค่าสูงถึง 500 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้กลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีเอกชนที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก แซงหน้า SpaceX ที่มีมูลค่า 400 พันล้านดอลลาร์
- การขายหุ้นครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้พนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงานสามารถขายหุ้นที่ถือครองให้กับนักลงทุนได้โดยตรง โดยมีนักลงทุนรายใหญ่อย่าง Thrive Capital เข้าร่วมการเจรจาด้วย
- OpenAI มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีรายได้จากการสมัครสมาชิกรายปีสูงถึง 12 พันล้านดอลลาร์ และกำลังเตรียมเปิดตัวโมเดล GPT-5 ในเร็วๆ นี้ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาด AI
OpenAI ผู้พัฒนา ChatGPT กำลังเจรจากับนักลงทุนเกี่ยวกับการขายหุ้นที่อาจผลักดันให้บริษัทมีมูลค่าสูงถึง 500 พันล้านดอลลาร์ ตามรายงานของ Bloomberg เมื่อวันอังคาร ข้อตกลงนี้จะเปิดโอกาสให้พนักงานขายหุ้นที่ถือครองและอาจทำให้ OpenAI กลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีเอกชนที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก แซงหน้า SpaceX ของ Elon Musk ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่า 400 พันล้านดอลลาร์
แม้การเจรจายังอยู่ในขั้นเริ่มต้น แหล่งข่าวระบุว่านักลงทุนปัจจุบันทั้งหมดของ OpenAI รวมถึง Thrive Capital จากนิวยอร์ก กำลังมีส่วนร่วมในการหารือ เนื่องจาก OpenAI ยังไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ การขายหุ้นครั้งนี้จะช่วยให้พนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงานสามารถขายหุ้นโดยตรงให้กับนักลงทุนได้ โดยมูลค่าสุดท้ายจะขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด
แหล่งข่าวเผยว่า OpenAI กำลังฉวยโอกาสจากความสนใจอย่างล้นหลามของนักลงทุน เพื่อมอบโอกาสให้พนักงานได้รับผลตอบแทนและประโยชน์จากการเติบโตของบริษัท รายงานนี้เกิดขึ้นหลังจาก OpenAI ได้รับเงินทุน 40 พันล้านดอลลาร์ล่าสุดนำโดย SoftBank จากญี่ปุ่น ซึ่งประเมินมูลค่าบริษัทไว้ที่ 300 พันล้านดอลลาร์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บริษัทสามารถระดมทุนได้ 8.3 พันล้านดอลลาร์จากรอบดังกล่าว โดยมีความต้องการสูงกว่าจำนวนหุ้นที่มีอยู่ถึงห้าเท่า แหล่งข่าวระบุว่าความสนใจของนักลงทุนครั้งนี้อาจทำให้การขายหุ้นรอบใหม่มีมูลค่าสูงกว่าการขายหุ้นมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ที่ OpenAI ดำเนินการเมื่อปลายปีที่แล้วอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้ง OpenAI และ Thrive Capital ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อเรื่องนี้
การขายหุ้นที่อาจเกิดขึ้นนี้อยู่ในช่วงที่เทคโนโลยี AI กำลังเฟื่องฟู โดยนักลงทุนทุ่มเงินมหาศาลให้กับบริษัทชั้นนำในวงการ เอกสารสาธารณะเผยให้เห็นว่า Meta, Microsoft, Amazon และ Alphabet ได้ใช้เงินหลายสิบพันล้านดอลลาร์กับ AI ในปีนี้ และวางแผนจะลงทุนมากกว่า 400 พันล้านดอลลาร์ในปี 2026 ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าการลงทุนอาจเพิ่มสูงขึ้นภายใต้ 'Big Beautiful Bill' ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump ซึ่งเสนอการลดหย่อนภาษีสำหรับบริษัทที่เร่งการลงทุน ทำให้มีเงินทุนเหลือสำหรับโครงการด้าน AI
บริษัท Startup ขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ มักอนุญาตให้พนักงานขายหุ้นเพื่อให้รางวัล รักษาบุคลากร และดึงดูดนักลงทุนใหม่ OpenAI เป็นหนึ่งในผู้นำที่ทรงอิทธิพลที่สุดในการวิจัย AI แต่ก็เผชิญกับการแข่งขันที่เข้มข้น นับตั้งแต่เปิดตัว ChatGPT ในปลายปี 2022 รายได้จากการสมัครสมาชิกรายปีของบริษัทเติบโตถึง 12 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Anthropic มีรายได้เพิ่มขึ้นสี่เท่าในปีนี้เป็น 4 พันล้านดอลลาร์
เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาด OpenAI ได้เปิดตัวโมเดล "open weight" ใหม่สำหรับนักพัฒนาให้ปรับแต่งได้อย่างอิสระในสัปดาห์นี้ และกำลังเตรียมเปิดตัวโมเดล GPT-5 ที่ได้รับการคาดหวังอย่างสูงในช่วงปลายเดือนนี้
Why it matters
💡 ข่าวนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่สนใจในวงการเทคโนโลยีและการลงทุน เนื่องจากเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของ OpenAI ที่อาจก้าวขึ้นเป็นบริษัทเทคโนโลยีเอกชนที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าที่อาจสูงถึง 500 พันล้านดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อเทคโนโลยี AI และศักยภาพการเติบโตของตลาดในอนาคต รวมถึงแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีโลก
ข้อมูลอ้างอิงจาก https://www.rt.com/news/622549-chatgpt-maker-most-valuable-tech-firm/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=RSS