เทคโนโลยีพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชั่นก้าวสู่ความสำเร็จเชิงพาณิชย์

Lawrence Livermore Lab สร้างประวัติศาสตร์ด้วย "first ignition" ครั้งแรกของโลก เปิดทางสู่การพัฒนาเชิงพาณิชย์ นำโดย Google และบริษัทชั้นนำ พร้อมเทคโนโลยี Tokamak ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าพลังงานโลก

เทคโนโลยีพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชั่นก้าวสู่ความสำเร็จเชิงพาณิชย์

Key takeaway

  • การค้นพบ "first ignition" ที่ Lawrence Livermore National Laboratory ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเทคโนโลยีพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชั่น เพราะสามารถผลิตพลังงานได้มากกว่าพลังงานที่ใช้ในการทดลอง
  • บริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการเทคโนโลยีอย่าง Google, Microsoft และ OpenAI กำลังทุ่มเงินลงทุนมหาศาลในเทคโนโลยีฟิวชั่น เพื่อรองรับการเติบโตของ Data Center และระบบ AI ที่ต้องการพลังงานสูง
  • คาดการณ์ว่าเทคโนโลยีฟิวชั่นจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ในทศวรรษหน้า และจะกลายเป็นแหล่งพลังงานสำคัญภายในปี 2050 โดยมีโครงการสำคัญอย่าง ITER มูลค่า 30 พันล้านดอลลาร์ ที่จะเริ่มดำเนินการในปี 2035

Lawrence Livermore National Laboratory สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการประสบความสำเร็จในการสร้าง "first ignition" ครั้งแรกของโลก โดยสามารถผลิตพลังงานจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่นได้มากกว่าพลังงานที่ใช้ในการทดลอง

ความสำเร็จนี้นำไปสู่การพัฒนาในเชิงพาณิชย์อย่างรวดเร็ว นำโดย Annie Kritcher และ Jeff Lawson ผู้ก่อตั้ง Inertia Enterprises บริษัท Commonwealth Fusion Systems (CFS) ได้ลงนามในสัญญาจำหน่ายพลังงานให้กับยักษ์ใหญ่อย่าง Google และ Eni พร้อมเดินหน้าโครงการ ARC ขนาด 400 เมกะวัตต์ ที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในช่วงต้นทศวรรษ 2030

ด้านการลงทุน Bill Gates ผ่าน Breakthrough Energy Ventures ได้ทุ่มทุนสนับสนุนบริษัทฟิวชั่นหลายแห่ง ขณะที่บริษัท Helion ได้รับเงินทุนจาก Sam Altman ผู้บริหาร OpenAI และ SoftBank เพื่อพัฒนาโรงงานฟิวชั่นสำหรับ Data Centers ของ Microsoft

เทคโนโลยีหลักที่ใช้คือระบบ Tokamak ที่ใช้แม่เหล็ก Superconducting ควบคุมพลาสมา และโครงการ ITER มูลค่า 30 พันล้านดอลลาร์ มีกำหนดเริ่มดำเนินการในปี 2035

คาดการณ์ว่าความต้องการไฟฟ้าทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายในปี 2050 ต้องการการลงทุนใหม่ถึง 18 ล้านล้านดอลลาร์ โดยเทคโนโลยีฟิวชั่นจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ในทศวรรษหน้า และจะกลายเป็นแหล่งพลังงานสำคัญภายในปี 2050Google นำทัพบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ลงทุนพลังงานฟิวชั่นสำหรับ AI และ Data Center

บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Google กำลังเดินหน้าลงทุนในเทคโนโลยีพลังงานฟิวชั่น เพื่อรองรับการทำงานของระบบ AI และ Data Center ที่ต้องการพลังงานมหาศาล

ล่าสุด Commonwealth Fusion Systems (CFS) ได้รับเงินสนับสนุนจากบริษัทชั้นนำในวงการเทคโนโลยี นำโดย Google พร้อมด้วย Nvidia และ Mitsubishi โดยปัจจุบันมีเม็ดเงินลงทุนจากภาคเอกชนไหลเข้าสู่ธุรกิจสตาร์ทอัพด้านพลังงานฟิวชั่นแล้วกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในจำนวนนี้ CFS ได้รับเงินทุนมากถึง 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เทคโนโลยีพลังงานฟิวชั่นนี้จะถูกนำมาใช้เพื่อจ่ายพลังงานให้กับโครงสร้างพื้นฐานระดับ hyperscale ที่ต้องการพลังงานสูง โดยคาดการณ์ว่าธุรกิจด้านพลังงานฟิวชั่นจะสร้างโอกาสทางธุรกิจมูลค่ามหาศาลหลายล้านล้านดอลลาร์ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

ขณะนี้บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำต่างเร่งพัฒนาระบบ AI และขยาย Data Center อย่างต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการใช้พลังงานเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก การลงทุนในพลังงานฟิวชั่นจึงเป็นทางเลือกสำคัญที่จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการด้านพลังงานในอนาคต

Why it matters

💡 ข่าวนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อวงการเทคโนโลยีและพลังงานโลก เพราะเป็นการเปิดศักราชใหม่ของพลังงานสะอาดที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะการที่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Google และ Microsoft เข้ามาลงทุนอย่างจริงจัง ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนา Data Center และระบบ AI ในอนาคต นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่จะช่วยแก้ปัญหาพลังงานและสิ่งแวดล้อมของโลกได้อย่างยั่งยืน

ข้อมูลอ้างอิงจาก https://fortune.com/2025/10/02/nuclear-fusion-online-commercial-ai-power/

Read more

เบราว์เซอร์ Comet AI จาก Perplexity เปิดให้ทุกคนใช้งานแล้ว

news

เบราว์เซอร์ Comet AI จาก Perplexity เปิดให้ทุกคนใช้งานแล้ว

Perplexity เปิดตัว Comet เว็บเบราว์เซอร์ AI ให้ทุกคนใช้งานฟรี มาพร้อมผู้ช่วย AI อัจฉริยะที่ตอบคำถามและทำงานแทนผู้ใช้ได้ ท้าทายการครองตลาดของ Google Chrome

By
ชายวัย 29 ปีถูกจับกุมหลังใช้ ChatGPT สร้างภาพไฟไหม้ก่อนก่อเหตุจริง

news

ชายวัย 29 ปีถูกจับกุมหลังใช้ ChatGPT สร้างภาพไฟไหม้ก่อนก่อเหตุจริง

ตำรวจจับกุม Jonathan Rinderknecht วัย 29 ปี ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุไฟไหม้ใน Pacific Palisades หลังพบหลักฐานใช้ ChatGPT สร้างภาพเหตุการณ์ล่วงหน้า 5 เดือน เหตุคร่าชีวิต 12 ราย บ้านเสียหายกว่า 6,000 หลัง

By
การหยุดชะงักของระบบ IT ทำให้ธุรกิจสูญเสียเงิน 76 ล้านดอลลาร์ต่อปี

news

การหยุดชะงักของระบบ IT ทำให้ธุรกิจสูญเสียเงิน 76 ล้านดอลลาร์ต่อปี

ผลการศึกษาจาก New Relic เผยการหยุดชะงักของระบบ IT ทำให้ธุรกิจสูญเสียเงินมัธยฐาน 76 ล้านดอลลาร์ต่อปี หรือ 33,333 ดอลลาร์ต่อนาที พร้อมเผยสาเหตุหลักและแนวทางแก้ไข

By
โรงพยาบาลจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือการโจมตีแบบฟิชชิ่งที่ใช้ AI

news

โรงพยาบาลจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือการโจมตีแบบฟิชชิ่งที่ใช้ AI

ภัยคุกคามจากการโจมตีฟิชชิ่งที่ใช้ AI ในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นกว่า 700% ในปี 2024 สร้างความเสี่ยงต่อข้อมูลผู้ป่วยและระบบสาธารณสุข จำเป็นต้องเพิ่มการฝึกอบรมและระบบป้องกันอย่างเร่งด่วน

By