เกาหลีเหนือใช้แผนสงครามไซเบอร์ แทรกซึมบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกา

เกาหลีเหนือใช้กลยุทธ์แฝงตัวเป็นพนักงานไอทีในบริษัทสหรัฐฯ เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญ สร้างความตื่นตระหนกในวงการความมั่นคงไซเบอร์

เกาหลีเหนือใช้แผนสงครามไซเบอร์ แทรกซึมบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกา

Key takeaway

  • แฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือแฝงตัวเป็นผู้สมัครงานและได้รับการว่าจ้างในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของสหรัฐฯ กว่า 100 แห่ง
  • เป้าหมายหลักคือการขโมยข้อมูลสำคัญขององค์กร โดยใช้เครื่องมือ Remote Monitoring and Management (RMM) เพื่อเข้าถึงระบบจากระยะไกล
  • FBI และกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้ออกคำเตือนและดำเนินการทางกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องในแผนการนี้
  • เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณเตือนให้องค์กรทั่วโลกต้องเพิ่มความระมัดระวังในการจ้างงานระยะไกลและปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์

CrowdStrike บริษัทชั้นนำด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ได้เปิดเผยรายงานประจำปี 2024 ที่น่าตกใจเกี่ยวกับการแทรกซึมของแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือในบริษัทเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมสำคัญของสหรัฐฯ โดยแฮกเกอร์เหล่านี้ได้แอบแฝงตัวเป็นผู้สมัครงานและสามารถเข้าสู่ตำแหน่งงานในบริษัทชั้นนำได้กว่า 100 แห่ง ข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นถึงภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงและเป็นการเปิดโปงขบวนการจารกรรมระดับโลกที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว

กลุ่มแฮกเกอร์ที่รู้จักกันในชื่อ "FAMOUS CHOLLIMA" มีความเชื่อมโยงกับหน่วยงานข่าวกรองและการสงครามไซเบอร์ของเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีชื่อเสียงด้านการโจมตีทางไซเบอร์ในระดับสูง กลุ่มนี้ได้ใช้เอกสารปลอมและเอกสารที่ถูกขโมยมา ในการปลอมแปลงข้อมูลตนเอง ทำให้สามารถเข้าทำงานในตำแหน่งด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ในบริษัทต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

แผนการโจมตีที่ซับซ้อน

เมื่อได้รับการว่าจ้าง แฮกเกอร์เหล่านี้จะทำหน้าที่เพียงเล็กน้อยในงานที่ได้รับมอบหมาย แต่เป้าหมายที่แท้จริงคือการขโมยข้อมูลสำคัญจากองค์กร ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางธุรกิจ การวิจัยและพัฒนา หรือข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า จากรายงานของ CrowdStrike พบว่าครึ่งหนึ่งของเคสที่สังเกตได้ มีการใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการจารกรรมข้อมูลออกไปจากบริษัท

แฮกเกอร์ยังได้ติดตั้งเครื่องมือ Remote Monitoring and Management (RMM) เช่น RustDesk, AnyDesk และ Google Chrome Remote Desktop ในระบบของบริษัทที่พวกเขาแฝงตัวอยู่ เพื่อรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลและป้องกันการถูกตรวจจับ โดยเครื่องมือเหล่านี้ทำให้พวกเขาสามารถเชื่อมต่อจากระยะไกล และแอบอ้างว่าเป็นพนักงานปกติในระบบเครือข่ายได้

Adam Meyers หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการต่อต้านการจารกรรมของ CrowdStrike ได้ระบุว่า "สิ่งที่น่าตกใจที่สุดเกี่ยวกับการโจมตีนี้คือขนาดและความกว้างขวางของการคุกคามจากภายใน เราได้แจ้งเตือนบริษัทที่เป็นเหยื่อกว่า 100 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นบริษัทในสหรัฐฯ ที่ไม่รู้ตัวว่าจ้างแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือ" นอกจากนี้ Meyers ยังเตือนว่า "การโจมตีนี้เป็นสัญญาณเตือนสำหรับบริษัททั่วโลกที่ควรระมัดระวังการจ้างงานจากระยะไกล และควรเพิ่มมาตรการความปลอดภัยในการตรวจสอบพนักงานใหม่"

ผลกระทบและมาตรการตอบโต้

FBI ได้ออกคำเตือนถึงบริษัทอเมริกันเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรของเกาหลีเหนือ ผ่านการจ้างงานในบริษัทเอกชน โดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DoJ) ได้ดำเนินการทางกฎหมายกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับแผนการนี้ รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและช่วยเหลือแฮกเกอร์เหล่านี้ในการทำงาน

การเปิดโปงนี้เป็นการส่งสัญญาณเตือนถึงการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบของการโจมตีทางไซเบอร์ที่ไม่ใช่เพียงแค่การแฮกระบบจากภายนอกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการแฝงตัวเข้าไปภายในองค์กรอย่างเป็นระบบด้วย นี่เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับองค์กรทั่วโลกในการปรับปรุงมาตรการความปลอดภัยไซเบอร์ และระมัดระวังในการจ้างงานพนักงานจากระยะไกลที่อาจจะมีความเสี่ยงสูง

Why it matters

💡
ข่าวนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้อ่านควรทราบเพราะเปิดเผยถึงภัยคุกคามทางไซเบอร์รูปแบบใหม่ที่น่ากังวล โดยแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือได้แทรกซึมเข้าสู่บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของสหรัฐฯ ผ่านการปลอมตัวเป็นพนักงาน IT ข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการเพิ่มความระมัดระวังในกระบวนการจ้างงานและความปลอดภัยภายในองค์กร ซึ่งเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับบริษัทและผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ทั่วโลก

ข้อมูลอ้างอิงจาก CrowdStrike 2024 report exposes North Korea’s covert workforce in U.S. tech firms

Read more

OpenAI เผยรายงานพบช่องว่างผลิตภาพสูงถึง 6 เท่าระหว่างผู้ใช้ AI ระดับสูงกับผู้ใช้ทั่วไป

news

OpenAI เผยรายงานพบช่องว่างผลิตภาพสูงถึง 6 เท่าระหว่างผู้ใช้ AI ระดับสูงกับผู้ใช้ทั่วไป

รายงานล่าสุดเผยช่องว่างการใช้งาน AI ในองค์กรกำลังขยายตัว พนักงานกลุ่มนำใช้ ChatGPT มากกว่าเพื่อนร่วมงานถึง 6 เท่า โดยเฉพาะในงานเขียนโค้ดและวิเคราะห์ข้อมูล ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เทคโนโลยี แต่เป็นโครงสร้างองค์กรที่ไม่พร้อมปรับตัว

By
Amazon, Microsoft ทุ่มเงินลงทุนด้าน AI ในอินเดียมหาศาล

news

Amazon, Microsoft ทุ่มเงินลงทุนด้าน AI ในอินเดียมหาศาล

ไมโครซอฟท์และอะเมซอนประกาศลงทุนรวมกว่า 52.5 พันล้านดอลลาร์ในอินเดีย เพื่อพัฒนาระบบนิเวศ AI และคลาวด์ ต่อยอดจากการลงทุนของ Google และ Intel ตอกย้ำการเติบโตของอินเดียในฐานะศูนย์กลางเทคโนโลยีระดับโลก

By
Google เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เพื่อไฮไลท์แหล่งข่าวที่คุณสนใจมากที่สุด

news

Google เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เพื่อไฮไลท์แหล่งข่าวที่คุณสนใจมากที่สุด

Google ปรับปรุงการค้นหาด้วยการขยายฟีเจอร์ Preferred Sources สำหรับผู้ใช้ภาษาอังกฤษทั่วโลก ไฮไลท์แหล่งข่าวที่สมัครสมาชิก และเพิ่มลิงก์แบบ inline ใน AI Mode เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ง่ายขึ้น

By
เทคโนโลยี AI ของ Instacart เพิ่มราคาสินค้าเดียวกันสูงถึง 20%

news

เทคโนโลยี AI ของ Instacart เพิ่มราคาสินค้าเดียวกันสูงถึง 20%

รายงานใหม่เผยว่า Instacart ใช้ AI ปรับราคาสินค้าชนิดเดียวกันต่างกันถึง 20% ตามการประเมิน "ความอ่อนไหวด้านราคา" ของลูกค้า ทำให้ผู้บริโภคอาจต้องจ่ายเพิ่มถึง 1,200 ดอลลาร์ต่อปี โดยที่ไม่รู้ตัวว่าถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งของการทดลอง

By