7 ฟีเจอร์ใหม่ที่ดีที่สุดของ GPT-5 ที่ควรทดลองใช้ทันที
สำรวจ 7 ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจของ GPT-5 ทั้งการบูรณาการโมเดล ความสามารถในการเขียนโค้ด การวิจัยเชิงลึก บุคลิกภาพที่กำหนดได้ Voice Mode ที่พัฒนาขึ้น และการเชื่อมต่อกับ Google Services

Key takeaway
- GPT-5 มาพร้อมการบูรณาการโมเดลต่างๆ เข้าด้วยกัน โดยระบบจะเลือกโมเดลที่เหมาะสมที่สุดโดยอัตโนมัติ พร้อมทั้งมีรุ่น Mini และ Nano ที่มีต้นทุนต่ำกว่าแต่ยังคงมีประสิทธิภาพสูง
- ความสามารถด้านการเขียนโค้ดได้รับการพัฒนาอย่างมาก สามารถสร้างแอปพลิเคชันแบบโต้ตอบได้ง่ายขึ้น และมีฟีเจอร์การวิจัยเชิงลึกที่สามารถทำงานได้ในระดับปริญญาเอก
- มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ เช่น บุคลิกภาพที่กำหนดไว้ล่วงหน้า 4 แบบ, Voice Mode ที่พัฒนาขึ้น และความสามารถในการเชื่อมต่อกับ Gmail และ Google Calendar ซึ่งจะเปิดให้ใช้งานในเร็วๆ นี้
ChatGPT กำลังก้าวไปอีกขั้น! OpenAI เปิดตัว GPT-5 โมเดล Large Language Model รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมการปรับปรุงมากมาย ทำให้ ChatGPT มีความแม่นยำ ปรับแต่งได้มากขึ้น และมีประโยชน์มากกว่าเดิม
GPT-5 มาพร้อมความฉลาดที่เพิ่มขึ้น ทำงานได้เร็วขึ้น และแม่นยำมากขึ้น ลดปัญหา "hallucinations" หรือการสร้างข้อมูลเท็จลงอย่างมาก ผู้บริหารของ OpenAI เปรียบเทียบว่าเหมือนกับมีผู้เชี่ยวชาญทุกด้านอยู่ในกระเป๋าของคุณ โดย GPT-5 สามารถทำได้หลากหลาย ทั้งเขียนบทความ เขียนโค้ด สร้างแอปโต้ตอบ ตรวจสอบอีเมล และทำวิจัยเชิงลึก
ฟีเจอร์ใหม่ที่ดีที่สุดของ GPT-5
1. ประสบการณ์ ChatGPT แบบบูรณาการ
GPT-5 รวมโมเดลต่างๆ เข้าด้วยกัน โดยระบบจะเลือกโมเดลที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคำถามของคุณโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ OpenAI ยังแนะนำโมเดลเพิ่มเติมอย่าง GPT-5 Mini และ GPT-5 Nano ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่าแต่ยังคงมีความสามารถเหนือกว่า GPT-o3 ในหลายด้าน
2. นักเขียนโค้ดส่วนตัว
OpenAI วางตำแหน่ง GPT-5 ให้เป็นนักเขียนโค้ดส่วนตัวที่มีประสิทธิภาพสูง โดยสามารถเขียนโค้ดได้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในการสาธิตสด ผู้บริหารบริษัทได้แสดงวิธีใช้ GPT-5 สร้างแอปพลิเคชันแบบโต้ตอบได้ตามต้องการด้วยคำสั่งง่ายๆ
3. ความสามารถในการวิจัยเชิงลึก
ด้วยการรวมโมเดลทั้งหมดของ OpenAI เข้าด้วยกัน ผู้ใช้ฟรีสามารถเข้าถึงโมเดลการให้เหตุผลขั้นสูงได้ โมเดลเหล่านี้สามารถทำการค้นหาหลายส่วนตามคำถาม แล้วสังเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากเป็นคำตอบที่ครอบคลุม ซึ่ง Sam Altman CEO ของ OpenAI กล่าวว่า GPT-5 สามารถทำได้ในระดับปริญญาเอก
4. บุคลิกภาพที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
OpenAI เปิดตัวบุคลิกภาพที่กำหนดไว้ล่วงหน้า 4 แบบใน ChatGPT:
- Cynic (คนช่างสงสัย)
- Robot (หุ่นยนต์)
- Listener (ผู้ฟัง)
- Nerd (เนิร์ด)
คุณสามารถเลือกใช้บุคลิกภาพเหล่านี้ตามความต้องการหรือกรณีการใช้งานเฉพาะได้
5. Voice Mode ที่พัฒนาขึ้น
Voice Mode ใน GPT-5 ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น สามารถปรับตัวและเข้าใจคำสั่งของคุณได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงปรับวิธีการพูดให้เหมาะกับสถานการณ์ ผู้ใช้ทุกคนรวมถึงผู้ใช้ฟรีสามารถเข้าถึง Voice Mode ที่ปรับปรุงนี้ได้ แม้ว่าผู้ใช้แบบชำระเงินจะมีขีดจำกัดการใช้งานที่สูงกว่า
6. เชื่อมต่อกับ Gmail และ Google Calendar
ในอนาคตอันใกล้ คุณจะสามารถเชื่อมต่อ Gmail, Google Calendar และ Google Contacts กับ ChatGPT ได้ โดย ChatGPT จะสามารถดึงข้อมูลจากแหล่งเหล่านี้โดยอัตโนมัติและอ้างอิงตามความจำเป็น ฟีเจอร์นี้จะเริ่มให้บริการเฉพาะผู้ใช้ Pro ก่อนในสัปดาห์หน้า
7. ปรับแต่งการแชทของคุณ
คุณสามารถเลือกสีสำหรับการแชทที่แตกต่างกันได้ แม้จะเป็นการอัปเดตเล็กน้อย แต่ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณจัดระเบียบการแชทได้ดีขึ้นและสลับระหว่างการสนทนาได้สะดวกยิ่งขึ้น
ฟีเจอร์ที่ยังไม่มีใน GPT-5
แม้ว่า GPT-5 จะเขียนและเขียนโค้ดได้ดีขึ้น แต่ยังมีบางด้านที่ไม่เหนือกว่าโมเดลอื่นๆ ของ OpenAI เช่น มี context window กว้างกว่า GPT-4o ที่ 256,000 tokens แต่ยังไม่เทียบเท่า GPT-4.1 ที่มี context window ขนาดหนึ่งล้าน token อย่างไรก็ตาม OpenAI ยืนยันว่าจะยังคงสนับสนุน GPT-4.1 ซึ่งอาจเป็นโมเดลที่เหมาะสมกว่าสำหรับการประมวลผลข้อมูลจำนวนมากในคราวเดียว
Why it matters
💡 ข่าวนี้น่าสนใจเพราะเป็นการเปิดเผยฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดของ GPT-5 ที่จะเปลี่ยนแปลงวงการ AI อย่างมาก ผู้อ่านจะได้เรียนรู้ความสามารถที่เพิ่มขึ้นของ GPT-5 ทั้ง 7 ฟีเจอร์สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนโค้ด การวิจัยเชิงลึก บุคลิกภาพที่กำหนดได้ และการเชื่อมต่อกับ Google Services ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ประโยชน์จาก AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข้อมูลอ้างอิงจาก https://sea.mashable.com/tech/38961/the-7-best-new-gpt-5-features-to-try-right-away