Fujitsu จับมือ Nvidia สร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ที่เร็วที่สุดในโลก
ฟูจิตสึและเอ็นวิเดียร่วมมือพัฒนา FugakuNEXT ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI รุ่นใหม่ของญี่ปุ่น ที่จะมีประสิทธิภาพสูงถึง 600EFLOPS FP8 พร้อมเพิ่มความเร็วแอปพลิเคชันขึ้น 100 เท่า คาดเริ่มใช้งานปี 2030

Key takeaway
- FugakuNEXT เป็นความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างฟูจิตสึ เอ็นวิเดีย และ Riken ในการพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ที่ทรงพลังที่สุดในโลก โดยตั้งเป้าประสิทธิภาพที่ 600 EFLOPS FP8 และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการในปี 2030
- ระบบนี้จะใช้ GPU รุ่น Feynman ของเอ็นวิเดียร่วมกับ CPU MONAKA-X ของฟูจิตสึ ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอปพลิเคชันได้มากถึง 100 เท่าเมื่อเทียบกับ Fugaku รุ่นปัจจุบัน โดยใช้พลังงานเพียง 40MW เท่าเดิม
- นอกจากฮาร์ดแวร์แล้ว โครงการนี้ยังใช้นวัตกรรมด้านซอฟต์แวร์หลายอย่าง เช่น surrogate models, mixed-precision arithmetic และ physics-informed neural networks เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโดยยังคงรักษาความแม่นยำในการประมวลผล
FugakuNEXT จะผสานรวม CPU ของฟูจิตสึและ GPU ของเอ็นวิเดียในซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นถัดไปของญี่ปุ่น โดยตั้งเป้าประสิทธิภาพที่ 600EFLOPS FP8 และเพิ่มความเร็วแอปพลิเคชันขึ้น 100 เท่า ทั้ง Riken, ฟูจิตสึ และเอ็นวิเดียมองว่าโครงการนี้จะเป็นการกำหนดมาตรฐานใหม่ในวงการ AI-HPC
ญี่ปุ่นกำลังพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับชาติรุ่นใหม่ FugakuNEXT ผ่านความร่วมมือระหว่างฟูจิตสึ เอ็นวิเดีย และ Riken โดยมีแผนเริ่มดำเนินการประมาณปี 2030 ด้วยเป้าหมายผสานการจำลองและปัญญาประดิษฐ์เข้าด้วยกันในแพลตฟอร์มที่บูรณาการอย่างสมบูรณ์
นับเป็นครั้งแรกในโครงการระดับชาติของญี่ปุ่นที่จะใช้ GPU เป็นตัวเร่งความเร็ว โดยเอ็นวิเดียจะรับผิดชอบออกแบบโครงสร้างพื้นฐาน GPU ฟูจิตสึดูแล CPU และการบูรณาการระบบ ส่วน Riken รับผิดชอบด้านซอฟต์แวร์และอัลกอริทึม
GPU Feynman
ผลลัพธ์ที่คาดหวังคือ "แพลตฟอร์ม AI-HPC" ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับวิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรม และการค้นพบที่ขับเคลื่อนด้วย AI
เป้าหมายประสิทธิภาพของซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้มีความทะเยอทะยานอย่างยิ่ง FugakuNEXT ถูกออกแบบให้มีประสิทธิภาพ AI แบบ FP8 มากกว่า 600EFLOPS ซึ่งจะทำให้เป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีการประกาศมา
ระบบนี้คาดว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพแอปพลิเคชันได้สูงถึง 100 เท่าเมื่อเทียบกับ Fugaku ในขณะที่ยังคงใช้พลังงานเพียง 40MW เท่าเดิม
โรดแมประยะยาวของเอ็นวิเดียบ่งชี้ว่าสถาปัตยกรรม GPU Feynman (ตั้งชื่อตามนักฟิสิกส์ทฤษฎี Richard Feynman) จะเปิดตัวประมาณปี 2028 จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกนำมาใช้ขับเคลื่อน FugakuNEXT
ฟูจิตสึกำลังพัฒนา CPU รุ่นถัดไปจาก MONAKA ภายใต้ชื่อชั่วคราว MONAKA-X ซึ่งจะมีคอร์มากขึ้น ขยายความสามารถ SIMD และมีเครื่องคำนวณเมทริกซ์ของ Arm สำหรับการอนุมาน AI โดยเฉพาะ
เมื่อผนวกรวมกับตัวเร่งความเร็วของเอ็นวิเดีย ระบบนี้จะสามารถรันการจำลองขนาดใหญ่ควบคู่ไปกับเวิร์กโหลด AI ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ฮาร์ดแวร์เพียงอย่างเดียวไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการเพิ่มประสิทธิภาพได้ ดังนั้นโครงการนี้จะอาศัยนวัตกรรมต่างๆ เช่น surrogate models, mixed-precision arithmetic และ physics-informed neural networks เพื่อเร่งประสิทธิภาพโดยยังคงรักษาความแม่นยำ
Makoto Gonokami ประธาน Riken กล่าวว่า "เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ Riken ได้ร่วมมือกับฟูจิตสึและเอ็นวิเดียในการพัฒนา FugakuNEXT ตั้งแต่สมัยโบราณ มนุษยชาติได้สร้างอารยธรรมและสังคมที่ก้าวหน้าผ่านวิทยาศาสตร์การคำนวณ ปัจจุบัน การเกิดขึ้นของ AI เซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง และคอมพิวเตอร์ควอนตัมกำลังนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดในวิทยาศาสตร์การคำนวณ"
Ian Buck รองประธานที่เอ็นวิเดีย กล่าวเสริมว่า "FugakuNEXT จะส่งมอบประสิทธิภาพระดับ zettascale ด้วยความเร็วแอปพลิเคชันที่เพิ่มขึ้นเกือบ 100 เท่า - ภายใต้การใช้พลังงานเท่าเดิมกับรุ่นก่อนหน้า - ซึ่งจะเร่งการวิจัย เพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางอุตสาหกรรม และขับเคลื่อนความก้าวหน้าสำหรับประชาชนในญี่ปุ่นและทั่วโลก"
Why it matters
💡 ข่าวนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อวงการเทคโนโลยีและการพัฒนา AI ระดับโลก เนื่องจากเป็นการประกาศความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างยักษ์ใหญ่อย่างฟูจิตสึและเอ็นวิเดีย ในการสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุดในโลก ด้วยประสิทธิภาพที่สูงถึง 600,000 FP8 Petaflops ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี AI และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ที่จะส่งผลกระทบต่อการพัฒนานวัตกรรมในหลากหลายอุตสาหกรรม